สุภาษิตพระร่วง ถือเป็นหนึ่งในวรรณคดีสำคัญในสมัยสุโขทัย สันนิษฐานว่า อาจแต่งขึ้นในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช หรือหลังสมัยสุโขทัยก็เป็นได้ และในปัจจุบันอาจมีการดัดแปลงหรือแต่งเติมจนคลาดเคลื่อนจากของเดิมไปบ้าง

ผู้แต่ง
สุภาษิตพระร่วง ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่นอนว่าใครเป็นผู้แต่ง แต่สันนิษฐานว่า อาจแต่งขึ้นในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช หรือหลังสมัยสุโขทัยก็เป็นได้ และในปัจจุบันอาจมีการดัดแปลงหรือแต่งเติมจนคลาดเคลื่อนจากของเดิมไปบ้าง
ประวัติ
สุภาษิตพระร่วง เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า บัญญัติพระร่วง ปรากฏหลักฐานเก่าแก่ที่สุดคือ จารึกอยู่ที่ผนังระเบียงด้านหน้าพระมหาเจดีย์องค์เหนือของวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามในรัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และพิมพ์ครั้งแรกในประชุมจารึกวัดพระเชตุพนฯ ฉบับหอพระสมุดวชิรญาณรวบรวม
ทำนองแต่ง
แต่งโดยสุภาษิต ตอนต้นแต่งด้วยร่ายสุภาพ จบแบบโคลงสองสุภาพ ตอนท้ายเป็นโคลงกระทู้หนึ่งบท
ความมุ่งหมาย
เพื่อสั่งสอนประชาชน
เรื่องย่อ
เริ่มต้นกล่าวถึงพระร่วงเจ้ากรุงสุโขทัย ทรงมุ่งประโยชน์ในกาลภายหน้า จึงทรงบัญญัติสุภาษิตสำหรับสอนประชาชนขึ้นไว้ สุภาษิตบทแรก คือ “เมื่อน้อยให้เรียนวิชา ให้หาสินเมื่อใหญ่” มีสุภาษิตทั้งหมด ๑๕๘ บท บทสุดท้ายเป็นโคลงกระทู้
คุณค่าของวรรณคดี
สุภาษิตพระร่วงเป็นคติโลกและคติธรรม ใช้ถ้อยคำคล้องจองกัน สำนวนกะทัดรัดจับใจจึงมีผู้จดจำไว้ได้มาก และนำไปอ้างไว้ในวรรณคดีเรื่องอื่น ๆ เช่น กาพย์มหาชาติ ร่ายยาวมหาเวสสันดรชาดก เสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน
สุภาษิตพระร่วงแสดงถึงชีวิตและค่านิยมเชิงสังคมของคนไทยไว้หลายแง่มุม เช่น ยกย่องความสำคัญของการศึกษา รักความสงบ มีมารยาทเรียบร้อย และสุภาพอ่อนน้อม
ที่มา:
หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ม.4 เล่ม 2 กระทรวงศึกษาธิการ
ดีทุกอย่างเลยค่ะ