วิธีเลิกผลัดวันประกันพรุ่ง เด็ดๆ ทำตามได้เลย!

“ฉันจะทำงานให้เสร็จพรุ่งนี้” คุณเคยพูดประโยคนี้กับตัวเองไหม? หลายคนอาจเคยประสบกับปัญหาผลัดวันประกันพรุ่ง ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อทั้งการทำงาน การเรียน และความสัมพันธ์ส่วนตัว

ผลัดวันประกันพรุ่ง

ผลัดวันประกันพรุ่ง คือพฤติกรรมที่เลื่อนเวลาในการทำสิ่งต่างๆ ออกไปเรื่อยๆ จนใกล้ถึงกำหนดส่งหรือ deadline พฤติกรรมนี้อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความขี้เกียจ ความลังเล ความกลัว ความคาดหวัง ความกดดัน ความเครียด ความเหนื่อยล้า ความเบื่อหน่าย ความซับซ้อน ความท้าทาย ความยากลำบาก ความไม่พร้อม ความไม่มั่นใจ เป็นต้น

หากคุณกำลังประสบกับปัญหาผลัดวันประกันพรุ่ง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุและวิธีแก้ไข เพื่อที่คุณจะได้เลิกพฤติกรรมนี้และประสบความสำเร็จในชีวิต

สาเหตุที่ทำให้เราผลัดวันประกันพรุ่ง

คุณเคยรู้สึกไหมว่างานที่กำลังทำอยู่น่าเบื่อ น่าเหนื่อย ไม่อยากทำ หรือคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะทำ เลยเลือกที่จะผลัดวันประกันพรุ่งออกไปก่อน จนสุดท้ายงานก็ล่าช้าหรือทำไม่เสร็จ

ผลัดวันประกันพรุ่งคือพฤติกรรมที่เลื่อนเวลาในการทำสิ่งต่างๆ ออกไปเรื่อยๆ จนใกล้ถึงกำหนดส่งหรือ deadline พฤติกรรมนี้อาจส่งผลเสียต่อทั้งการทำงาน การเรียน และความสัมพันธ์ส่วนตัว

แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เราผลัดวันประกันพรุ่งกัน? สาเหตุหลักๆ มีอยู่ 6 ประการ ดังนี้

1. ความกลัวความล้มเหลว

เรากลัวว่าหากลงมือทำแล้วจะไม่สำเร็จ จึงเลือกที่จะหลีกเลี่ยงการเริ่มต้น

2. Perfectionism

เราตั้งมาตรฐานในการทำสิ่งต่างๆ ไว้สูงเกินไป จึงกลัวที่จะทำผิดพลาด จึงเลือกที่จะรอให้พร้อมกว่านี้ก่อน

3. ความไม่มั่นใจในตัวเอง

เราไม่มีความเชื่อในตัวเองว่าจะสามารถทำงานนั้นๆ สำเร็จ จึงเลือกที่จะเลื่อนออกไปเรื่อยๆ

4. คิดว่าตัวเองทำงานได้ดีในสภาวะกดดัน

เราคิดว่าตัวเองทำงานได้ดีในสภาวะกดดัน จึงเลือกที่จะรอให้ใกล้ถึง deadline ก่อนจึงจะเริ่มทำงาน

5. ความขี้เกียจ

เราไม่อยากลงมือทำ เพราะเหนื่อยหรือไม่อยากเสียเวลา

6. ความลังเล

เราไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นอย่างไร หรือควรทำอย่างไร จึงเลือกที่จะรอเวลาที่เหมาะสมก่อน

วิธีเลิกผลัดวันประกันพรุ่ง

หากเราเข้าใจสาเหตุที่ทำให้เราผลัดวันประกันพรุ่ง เราก็จะสามารถหาวิธีแก้ไขได้ ดังนี้

1. ปรับมุมมอง

เปลี่ยนมุมมองจากกลัวความล้มเหลว เป็นความท้าทายที่ต้องเอาชนะ เปลี่ยนมุมมองจาก Perfectionism เป็นความพอดี เปลี่ยนมุมมองจากความไม่มั่นใจ เป็นความเชื่อมั่นในตัวเอง

2. แบ่งงานให้เล็กลง

หากงานใหญ่และยากเกินไป ให้แบ่งงานออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ทีละชิ้น จะทำให้งานดูไม่ยากและน่าทำมากขึ้น

3. ตั้งเป้าหมายและกำหนดเวลา

การตั้งเป้าหมายและกำหนดเวลาจะทำให้เรามีแรงจูงใจที่จะทำงานให้สำเร็จ

4. หาคนช่วย

หากงานยากเกินไปหรือเกินความสามารถ ให้หาคนช่วยทำงาน จะช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้น

5. เลิกขี้เกียจ

ปรับตัวเป็นคนใหม่ เลิกขี้เกียจ เริ่มจากการตั้งเป้าหมายเล็กๆ ประจำวันให้ตัวเองง่ายๆ ก่อน

6. ลงมือทำทันที

อย่ารอเวลาที่เหมาะสม เพราะเวลาที่เหมาะสมอาจไม่มีอยู่จริง ลงมือทำทันทีจะดีที่สุด

การเลิกผลัดวันประกันพรุ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สามารถทำได้หากเรามีความพยายามและตั้งใจ เราสามารถเริ่มต้นจากการปฏิบัติตามแนวทางที่กล่าวมาข้างต้น และค่อยปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง

สิ่งสำคัญคืออย่ายอมแพ้ต่อความขี้เกียจ ความลังเล ความกลัว ความคาดหวัง ความกดดัน ความเครียด ความเหนื่อยล้า ความเบื่อหน่าย ความซับซ้อน ความท้าทาย ความยากลำบาก ความไม่พร้อม หรือความไม่มั่นใจ จงมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และคุณจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

ตัวอย่างที่ทำให้เลิกผลัดวันประกันพรุ่ง

การเลิกผลัดวันประกันพรุ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากเรามีความพยายามและตั้งใจ เราก็สามารถทำได้ ตัวอย่างต่อไปนี้อาจช่วยให้คุณมีแรงบันดาลใจในการเลิกผลัดวันประกันพรุ่ง

1. ตัวอย่างจากคนรอบข้าง

การเห็นคนรอบข้างประสบความสำเร็จจากการเลิกผลัดวันประกันพรุ่ง อาจทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการเลิกทำตามไปด้วย เช่น เพื่อนร่วมงานที่ทำงานเสร็จทันเวลาเสมอ หรือพี่ชายที่สอบติดมหาวิทยาลัยดัง เป็นต้น

2. ตัวอย่างจากตัวเอง

ลองนึกถึงครั้งล่าสุดที่เราประสบความสำเร็จจากการลงมือทำทันที เช่น ตอนที่ตัดสินใจสมัครเรียนภาษาใหม่ หรือตอนที่ตัดสินใจลดน้ำหนัก เป็นต้น ความสำเร็จครั้งนั้นจะช่วยให้เราเชื่อว่าเราสามารถเลิกผลัดวันประกันพรุ่งได้เช่นกัน

3. ตัวอย่างจากความสำเร็จของผู้อื่น

ลองอ่านเรื่องราวความสำเร็จของผู้อื่น เช่น เรื่องราวของนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ หรือเรื่องราวของนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จจากการฝึกฝนอย่างหนัก เป็นต้น เรื่องราวเหล่านี้จะช่วยทำให้เราเห็นคุณค่าของความพยายามและการลงมือทำทันที

4. ตัวอย่างจากข้อเสียของการผลัดวันประกันพรุ่ง

ลองนึกถึงข้อเสียของการผลัดวันประกันพรุ่ง เช่น งานล่าช้า เสียเวลา เสียโอกาส หรือเสียความสัมพันธ์ เป็นต้น ข้อเสียเหล่านี้จะช่วยให้เราตระหนักถึงโทษของการผลัดวันประกันพรุ่ง

5. ตัวอย่างจากเป้าหมายในชีวิต

ลองนึกถึงเป้าหมายในชีวิตของเรา เช่น เป้าหมายในการเรียนต่อ เป้าหมายในการทำงาน หรือเป้าหมายในการใช้ชีวิต เป็นต้น เป้าหมายเหล่านี้จะช่วยให้เรามีแรงจูงใจที่จะเลิกผลัดวันประกันพรุ่งและมุ่งมั่นไปสู่ความสำเร็จ

หากเรานำตัวอย่างเหล่านี้มาปรับใช้กับตัวเอง ก็จะช่วยให้เราเลิกผลัดวันประกันพรุ่งได้สำเร็จ จงอย่ายอมแพ้ต่อความขี้เกียจ ความลังเล ความกลัว ความคาดหวัง ความกดดัน ความเครียด ความเหนื่อยล้า ความเบื่อหน่าย ความซับซ้อน ความท้าทาย ความยากลำบาก ความไม่พร้อม หรือความไม่มั่นใจ จงมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และคุณจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

เลิกผลัดวันประกันพรุ่งแล้วปรับตัวเองใหม่เสียตั้งแต่วันนี้เลย!

หากคุณกำลังประสบกับปัญหาผลัดวันประกันพรุ่ง จงเริ่มต้นจากการหาตัวอย่างที่ทำให้คุณมีแรงบันดาลใจในการเลิกทำตามนั้น อาจเป็นตัวอย่างจากคนรอบข้าง ตัวอย่างจากตัวเอง ตัวอย่างจากความสำเร็จของผู้อื่น ตัวอย่างจากข้อเสียของการผลัดวันประกันพรุ่ง หรือตัวอย่างจากเป้าหมายในชีวิตของคุณ

เมื่อคุณมีแรงบันดาลใจแล้ว ก็จงลงมือทำทันที อย่ารอเวลาที่เหมาะสม เพราะเวลาที่เหมาะสมอาจไม่มีอยู่จริง ลงมือทำทันทีจะดีที่สุด

บทสรุป

การเลิกผลัดวันประกันพรุ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สามารถทำได้หากเรามีความพยายามและตั้งใจ เราสามารถเริ่มต้นจากการปฏิบัติตามแนวทางที่กล่าวมาข้างต้น และค่อยปรับใช้ให้เหมาะสมกับตัวเอง

หากคุณรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะเลิกผลัดวันประกันพรุ่งทันที ไม่เป็นไร คุณสามารถเริ่มต้นจากการลดระยะเวลาในการผลัดวันประกันพรุ่งลงทีละน้อย เช่น จาก 1 วัน เป็นครึ่งวัน จากครึ่งวัน เป็น 1 ชั่วโมง เป็นต้น

สิ่งสำคัญคืออย่ายอมแพ้ต่อความขี้เกียจ ความลังเล ความกลัว ความคาดหวัง ความกดดัน ความเครียด ความเหนื่อยล้า ความเบื่อหน่าย ความซับซ้อน ความท้าทาย ความยากลำบาก ความไม่พร้อม หรือความไม่มั่นใจ จงมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง และคุณจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน